วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

แนะนำโรงเรียนอำนาจเจริญของฉัน

สวัสดีค่ะทุกคน ในนาม girlgroup-pusssy 


วันนี้เราก็จะมานำเสนอ  video แนะนำโรงเรียนของเรา

ให้ชาว  girlgroup-pusssy  ได้รู้จักกันค่ะ



คำพ่อสอน

ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็ก เพราะว่าต่อไปถ้ามีชีวิตที่ลำบาก ไปประสบอุปสรรคใด ๆ ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้ เพราะว่าถ้าไปเจออุปสรรคอะไร ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้ แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี และมีความเข้มแข็งในกาย ในใจ ก็สามารถที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ นั้นได้ ความเข้มแข็งในใจนั้น หมายความว่า ไม่ท้อถอย และไม่เกิดอารมณ์มาทำให้โกรธ อารมณ์นั้นก็คือ ความโกรธ ความฉุนเฉียว ความน้อยใจ ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คิดไม่ออก . . . ”
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต
วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๑๘

เคล็ดลับวิธีเรียนเก่ง

 


ถึงจะไม่ได้เกิดมาพร้อมไอคิว 180 ไม่ได้มีเหรียญทองโอลิมปิกการันตี  แต่คุณก็เป็นเด็กสมองดีเรียนเก่งกะเขาได้ เชื่อดิ! ไม่มีอะไรยาก  แต่ที่อยากจะแนะนำ คือ ต้องค้นหาตัวเองให้พบว่าเรามีเป้าหมายในชีวิตอย่างไร
          แล้วก็รู้จักแบ่งเวลาให้ถูกต้อง รู้ว่าเวลาไหนทำอะไรอยู่ ถ้ารู้เป้าหมายทีนี้ก็มุ่งมั่นเลือกเรียนตามเป้าที่ตั้งใจ  แล้วใช้เคล็ดลับเรียนดีที่หามาฝาก ทำตามนี้ได้ เรียนเก่งชัวร์ !

          1.ก่อนอื่นต้องบำรุงร่างกายให้เต็มที่ อาหารเช้าขาดไม่ได้ สำคัญที่สุด จำไว้ว่าถ้าอยากความจำดี สมองแล่น อย่าลืมอาหารเช้า จะรีบเร่งแค่ไหน ต้องกินให้ได้
         2. พักผ่อนให้พอ หากนอนน้อยไปร่างกายก็อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า อ่านหนังสือเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัว แต่ถ้าพักผ่อนเพียงพอ สมองก็จะแจ่มใส จำได้ดี
          3.ความเงียบ เสียงดังทั้งหลายล้วนสร้างความรำคาญใจ ทำให้ขาดสมาธิ เรียนไม่รู้เรื่อง ดังนั้น หากต้องท่องตำรา หาที่สงบๆ ไม่มีเสียงดังรบกวน
          4.มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน อย่าคิดแต่ว่าวิชานี้เราไม่เก่ง ไม่ถนัด อย่าเพิ่งคิดไปเอง อย่ามีอคติ
          5.หมั่นสะสมความรู้ ต้องมีความรู้ติดสมอง สามารถหยิบมาใช้การได้ทันที ถ้าคิดจะเรียนเพื่อสอบ คุณกำลังคิดผิดอย่างใหญ่หลวง เพราะจะทำให้ไม่เกิดความใฝ่รู้ ต้องเข้าใจว่าเรียนเพื่อตัวเราเอง เพื่อพัฒนาสมอง พัฒนามุมมองความคิดต่าง ๆ เพื่อให้พึ่งตัวเองได้ ยังชีพตัวเองในสังคมนี้ได้
          6.ตั้งใจ ตั้งใจฟัง ทำความเข้าใจ ให้มันซาบซึ้งเข้าไปในหัว  ความตั้งใจนี้รวมไปถึงสมาธิต้องดีไม่วอกแว่ก
          7.จดบันทึก สรุปเนื้อหา แลกเปลี่ยนความรู้กับคนอื่น อย่าหวงวิชา การแลกเปลี่ยนจะทำให้เราได้ทบทวน และยังได้เพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆ อีกด้วย
          8. เสาะหาพวกข้อสอบต่าง ๆ มาลองทำให้เยอะที่สุด ทำ ๆ ๆ จนรู้สึกว่าบรรลุในเรื่องนั้นๆ เมื่อชำนาญมองโจทย์ปุ๊บ จะเกิดความคิดแปร๊บๆ ตอบได้ทะลุหมด
          9.ฝึกสมาธิ ฝึกทุกวันๆ ละ 5 นาทีพอรู้สึกใจเริ่มนิ่ง เมื่อมีสมาธิจดจ่อ สมองจะปลอดโปร่ง จดจำได้ดี
          10. จัดตารางเวลา ก่อนอื่นต้องคุมเวลานอนให้ได้ทุกวันเช่น ตื่น 6 โมงเช้านอน 4 ทุ่ม ซัก 1 เดือนติดต่อกัน ให้ได้ก่อนค่อยมาจัดเวลาทบทวนหนังสือ เพราะจะเป็นการจัดระบบสมองอย่างดีเยี่ยม และจะรู้สึกว่าสมองมีพลังในการรับรู้ ถ้าทำข้อนี้ไม่ได้ อย่าคิดว่าจะเรียนให้ดีได้ 
          11. การอ่านหนังสือไม่จำเป็นต้องอ่านทีละนานๆ อ่านน้อยๆ แต่ยิ่งบ่อยยิ่งดี เช่นตั้งใจไว้ว่าวันหนึ่งจะอ่านซัก1 – 2 ชม.ก็เกินพอ  สำคัญที่ความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
          12. ต้องรู้วิธีเรียนในแต่ละวิชา เช่น คณิต/ ฟิสิกส์เน้นความเข้าใจ  เคมีเน้นเข้าใจ และท่องจำ อังกฤษเน้นเรื่องทักษะ ต้องใช้บ่อย ๆ
          13. ลองสนามสอบบ่อยๆ เพิ่มความมั่นใจ ข้อนี้สำคัญมากจะทำให้ได้ฝึกตัวเอง ฝึกรับมือกับโจทย์ปัญหาต่างๆ
          ท้ายสุด…ต้องกำจัดความขี้เกียจให้หมดไป ถ้าทำได้ทุกข้อ แต่ความเกียจคร้านยังเกาะแน่น…ตายตอนจบทุกราย ขอเตือน !

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

กิจกรรมสาธารณประโยชน์

 

 

 ชื่อกิจกรรม : เพื่อนติวเพื่อน Friend conner
ที่มาและความสำคัญของกิจกรรม 
     ปัจจุบันปัญหาการเรียนของนักเรียนชั้นมอปลาย มีความยากและซับซ้อนมากขึ้น เพื่อนๆของเราบางคนเกิดความไม่เข้าใจในบางรายวิชา  คณะผู้จัดทำกิจกรรมนี้จึงมีความคิดเห็นว่า เราน่าจะช่วยเพื่อนๆของเราเหล่านั้นให้มีความรู้ความเข้าใจในรายวิชาที่เพื่อนๆยังไม่เข้าใจ โดยใช้วิธีการ เพื่อนติวเพื่อน โดยจะนำเพื่อนคนที่เก่งในรายวิชาต่างๆมาติวให้เพื่อน

วัตถุประสงค์

1. เพื่อช่วยเพื่อนในรายวิชาที่ยังไม่เข้าใจ
2.กระชับสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน
3.เพื่อเกิดความสามัคคี


วิธีดำเนินการ.
1. เสนอแผนการดำเนินการให้เพื่อนได้รับทราบ
2. นัดวันเวลาในการดำเนินการ
3. แบ่งเนื้อหาการติวในแต่ละวิชา
4.กำหนดวิชาที่จะติวในแต่ละอาทิตย์


ผลการดำเนินการ
1. เพื่อนมีความรู้มากขึ้น
2. เพื่อน ๆ สามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มากขึ้น
3.ประหยัดค่าเรียนพิเศษ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.เพื่อนๆมีความรู้ความเข้าใจในวิชาที่เรียนเพิ่มมากขึ้น
2.ช่วยทบทวนความรู้เดิมที่เรามีอยู่
3.เป็นผลดีต่อการสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา
4.กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนให้มากยิ่งขึ้น
5.รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน